สถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินศึกษา
ผู้ตรวจการแผ่นดิน TH EN twitter สถาบันผู้ตรวจการแผ่นดิน Youtube สถาบันผู้ตรวจการแผ่นดิน
เรื่องร้องเรียนที่สำคัญ >> เรื่องร้องเรียน >> หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ
“ผู้ตรวจการแผ่นดิน แนะตั้งคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย เร่งจัดทำแผนการพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพโดยเร็ว”

วันที่ 6 ต.ค. 2564
 
ด้วยพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2562 มุ่งเน้นให้เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับความคุ้มครอง ดูแล พัฒนาให้การเรียนรู้ และการศึกษาให้สมกับวัยอย่างต่อเนื่อง ทั่วถึง เสมอภาค และมีคุณภาพ เพื่อให้เติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่ดี รวมถึงการกำหนดให้หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม มีการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ
เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเด็กปฐมวัยและอำนวยความสะดวกในการบริการด้านการคุ้มครองสิทธิแก่เด็กปฐมวัยอย่างทั่วถึง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่ยังพบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถพัฒนาให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติได้ การดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติไปสู่การปฏิบัติยังไม่สามารถดำเนินการได้ พบข้อจำกัดบางประการ เช่น การพัฒนาบุคลากรครูผู้ดูแลเด็ก
การขาดสื่อการเรียนการสอน และงบประมาณในการก่อสร้างอาคารสถานที่ตามที่มาตรฐานกำหนดไว้
 
ผู้ตรวจการแผ่นดินตระหนักและเห็นความสำคัญของระบบการบริหารการจัดการศึกษา
เด็กปฐมวัย ซึ่งต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมบริหารจัดการให้เด็กปฐมวัยในทุกภูมิภาคได้รับการคุ้มครอง ดูแล ในแนวทางที่สอดคล้องตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 258 จ. ด้านการศึกษา และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) จึงอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 230 (3) เสนอรายงาน
การแสวงหาข้อเท็จจริงการที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐพร้อมข้อเสนอแนะ เรื่อง การจัดการศึกษาเด็กเล็กต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ดังนี้
 
1. เสนอให้เร่งรัดติดตามการดำเนินการสรรหาแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการพัฒนา
เด็กปฐมวัย ตามมาตรา 9 (3) แห่งพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562
2. เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมุ่งเน้นให้เกิดการจัดทำแผนการพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพและจัดทำฐานข้อมูลเด็กปฐมวัยโดยเร็ว สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
3. เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงาน
4. เสนอให้มีการกำหนดบทบาทอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเด็กปฐมวัยและส่งเสริมการบูรณาการงานด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย
5. ให้กระทรวงศึกษาธิการส่งเสริมและปลูกฝังให้ความสำคัญกับการผลิตครูและพัฒนาบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย โดยมุ่งเน้นให้มีการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรที่มีการเสริมสร้างจิตวิญญาณของความเป็นครู ผู้ดูแลเด็กปฐมวัยที่มุ่งหวังให้เด็กเติบโตไปเป็นกำลังสำคัญของชาติที่มีคุณภาพ
6. เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมการบูรณาการร่วมกันระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ตลอดจนพัฒนาการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างเป็นระบบ
 
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด
ที่ นร 0401.7 / 8386 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2563 แจ้งผลการดำเนินการสรุปได้ว่า นายกรัฐมนตรี
ได้พิจารณาและมีบัญชามอบหมายกระทรวงศึกษาธิการนำความเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินไปพิจารณาดำเนินการจัดทำประเด็นเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และมีบัญชาให้ติดตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในทุกช่วงวัย ทุกประเภทว่ามีความก้าวหน้าอย่างไร ต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้มีหนังสือ ที่ ศธ 0331/207 ลงวันที่ 19 มกราคม 2564 เรื่อง รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินแจ้งต่อเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ในการดำเนินการใน่สวนที่เกี่ยวข้องทั้ง 6 ประเด็น ดังนี้
 
1. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้ดำเนินการสรรหาแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามมาตรา 9 (3) แห่งพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 แล้วเสร็จตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 96/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ลงวันที่ 30 มีนาคม 2563 เรียบร้อยแล้ว
2. คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ได้พิจารณาให้ตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจจัดทำแผนพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อจัดทำแผนพัฒนาเด็กปฐมวัยให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษามีหนังสือ ที่ ศธ 0311 / ว 2517 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เพื่อส่งมอบแผนพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2564 - 2570 ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
3. ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทำการปรับปรุงมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัยของกระทรวงศึกษาธิการ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ
เพื่อขับเคลื่อนการใช้มาตรฐานฯ ร่วมกันต่อไป
4. หน่วยงานที่มีบทบาทอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะต้องจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องและเป็นไปตามที่แผนพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2564 - 2570 กำหนด และจะติดตามการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ ต่อไป
5. กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายการส่งเสริมการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทาง
การศึกษาให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของประเทศ รวมทั้งมีเป้าหมายในการพัฒนาครูและผู้บริหารในระบบปัจจุบันให้มีความรู้ ทักษะ และชุดความคิดใหม่ในการจัดการศึกษา
6. ตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562 ได้กำหนดให้มีคณะอนุกรรมการบูรณาการการพัฒนาเด็กปฐมวัย มีหน้าที่และอำนาจในการจัดทำแผนพัฒนาเด็กปฐมวัย กำหนดแนวทางการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ซึ่งอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการฯ มีความสอดคล้องตามข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดิน หากมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ เรียบร้อยแล้วจะสามารถดำเนินการตามข้อเสนอแนะได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
หัวข้อ
Download
เอกสารแนบ 1 รายงานความก้าวหน้าตามข้อเสนอ
เอกสารแนบ 2 แผนพัฒนาเด็กปฐมวัยและภาคผนวก
« เมษายน 2567 »
อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
  1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30
ดูปฏิทินทั้งหมด
ลิงค์ที่น่าสนใจ เว็บไซต์องค์กรตามรัฐธรรมนูญ


   หน้าหลัก
    • ข่าวและประกาศ
    • ภาพกิจกรรม

   เกี่ยวกับเรา
    • ประวัติความเป็นมา                
    • โครงสร้างองค์กร 
    • ภารกิจ
    • บุคลากร

   วารสารผู้ตรวจการแผ่นดิน
    • เกี่ยวกับเรา                            
    • วารสารผู้ตรวจการแผ่นดิน 
    • ส่งบทความ
    • ข้อแนะนำการส่งบทความ
    • กองบรรณาธิการ
    • ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ
    • ติดต่อเรา

   ความร่วมมือ
    • ภายในประเทศ
    • ต่างประเทศ

   แผ่นพับ

   ติดต่อเรา
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550  อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ชั้น 5 เลขที่ 120 หมู่ที่ 3 แขวง ทุ่งสองห้อง เขต หลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
หมายเลขโทรศัพท์ (สผศ.) : 0-2141-9383 และ 0-2141-9295 , หมายเลขโทรสาร (สผศ.) : 0-2143-9385
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์