ผู้ร้องเรียนซึ่งเป็นอุปนายกสโมสรนักศึกษาในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง เห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเฉพาะสำหรับควบคุมดูแลการฝึกงานของนักเรียน นิสิต นักศึกษา มีเพียงกฎระเบียบของสถาบันการศึกษาบางแห่ง และข้อตกลงร่วมระหว่างสถาบันการศึกษากับสถานประกอบการเท่านั้น โดยที่พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานไม่สามารถนำมาใช้บังคับได้ เนื่องจากนักศึกษาที่ฝึกงานไม่ถือว่าเป็นแรงงานตามกฎหมาย ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น การทำงานเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด การทำงานที่เป็นงานต้องห้ามและอันตราย การทำงานโดยไม่สนใจสภาพร่างกายทำให้ร่างกายและจิตใจ ทรุดโทรมหรือเกิดทุพพลภาพ การล่วงละเมิดทางเพศ และการไม่ได้รับการชดเชยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินอันเกิดจากการทำงานตามระบบที่ควรจะเป็น ดังนั้น ผู้ร้องเรียนจึงได้ร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และขอให้มีกฎหมายเพื่อดูแลนักศึกษา ผู้เข้ารับการฝึกงานในสถานประกอบการโดยเฉพาะ
ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้รับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา และมีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริง และส่งเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณา และจัดให้มีการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถาบันความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงาน (องค์การมหาชน) และผู้ร้องเรียน เพื่อรับฟังความคิดเห็นและแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ กรณีนักศึกษาฝึกงานไม่ได้รับการรับรองและคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน หากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ได้มีการประสานหรือกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติงานใด ๆ ร่วมกันในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการกำกับ ดูแล และคุ้มครองความปลอดภัยให้กับนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาทุกแห่ง ที่เข้ารับการฝึกงานในสถานประกอบการ ตามที่กำหนดในหลักสูตรของสถาบันการศึกษา ย่อมส่งผลกระทบ ต่อการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ที่ไม่สามารถจะอำนวยประโยชน์แก่ประชาชน หรือเป็นภาระแก่นักศึกษา โดยไม่จำเป็นหรือเกินสมควรแก่เหตุ โดยที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องดำเนินการหาแนวทางแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น และผู้ตรวจการแผ่นดินมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องพิจารณาและดำเนินการปรับปรุงขั้นตอนการปฏิบัติงาน เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อำนวยประโยชน์ให้แก่ประชาชนและลดภาระที่เกิดขึ้นกับประชาชน โดยไม่จำเป็น ดังนี้
1. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำหลักเกณฑ์มาตรฐานกลางเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐานการส่งตัวนิสิตและนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐที่เข้ารับการฝึกงานในสถานประกอบการ โดยให้นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดหลักเกณฑ์การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของนักศึกษาฝึกงาน ของกระทรวงแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รวบรวมไว้ เพื่อนำไปพิจารณาประกอบการกำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานการส่งตัวนิสิตและนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ที่เข้ารับการฝึกงานใน สถานประกอบการ แล้วรายงานผลการดำเนินการให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทราบภายใน 120 วัน ทั้งนี้ อยู่ระหว่างที่หน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
2. ให้กระทรวงแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กำชับพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบ ติดตาม กำกับ และดูแล ให้สถานประกอบการที่รับนักศึกษาเข้าฝึกงานปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการรับรองและคุ้มครองนักศึกษา ในระหว่างการฝึกงานตามหลักสูตรของสถาบันการศึกษาได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หน่วยงานได้มีหนังสือแจ้งเวียนกำชับพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบ ติดตาม กำกับ และดูแล ในเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
3. ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมกันสนับสนุนการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของนักศึกษาฝึกงาน ให้สอดคล้องตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ออกประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์การฝึกงานหลักสูตรการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในสถานประกอบการ พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้ว ประกาศ ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2566 และได้สนับสนุนข้อมูลให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรวบรวม เพื่อให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม พิจารณาจัดทำหลักเกณฑ์กลางเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐานการส่งนักศึกษาเข้ารับการฝึกงานในสถานประกอบการต่อไปแล้ว