รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 บัญญัติให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจและหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อขจัดความเดือนร้อนและให้เกิดความเป็นธรรมขึ้นในสังคม รวมทั้งเสนอคณะรัฐมนตรี ให้ทราบถึงการที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วน จากกรณีปัญหาการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของภาครัฐ ที่เกิดขึ้น ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน (พลเอก วิทวัส รชตะนันท์) (ในขณะนั้น) จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 พิจารณาหยิบยกปัญหาดังกล่าวมาแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนดังกล่าวให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประชาชนมีโอกาสเข้าถึงวัคซีนที่มีความปลอดภัยอย่างทั่วถึง อันจะส่งผลดีต่อระบบสาธารณสุข เศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยในภาพรวมต่อไป สอดคล้องกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มาตรา 55 บัญญัติให้รัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับการบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง โดยครอบคลุมถึงการควบคุม และการป้องกันโรคด้วย
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีการจัดประชุมพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน (นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต) เป็นประธานการประชุม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อชี้แจงข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 และได้มีข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รัฐ โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโนโรนา 2019 (ศบค.) ควรเร่งกำหนดมาตรการและแนวทางในการให้ภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดหาและกระจายวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชน อีกทั้งควรเร่งประชาสัมพันธ์มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลข้างเคียงหรือมีอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีน และสนับสนุนการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้แก่กลุ่มผู้ขาดศักยภาพที่จะเข้าถึงบริการหรือข่าวสารของรัฐในเรื่องการเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ศบค. ได้มีการกำหนดแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยให้ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดหาวัคซีนมาให้บริการแก่ประชาชนได้จากกรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สภากาชาดไทย ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่และอำนาจให้บริการทางการแพทย์ ตามประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประกาศ ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2564 เรียบร้อยแล้ว